Skip to content
Post Views: 794


“อนุทิน ชาญวีรกูล” โปรยยาหอม อสม.ดันค่าตอบแทน 2,000 บาทต่อเดือน เผยนโยบาย สธ.ปีหน้าให้คนไทยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ครบ 4 เข็ม


“หมอหนู” โปรยยาหอม ดัน ค่าตอบแทน อสม.ให้เป็นนโยบายของรัฐบาล เดือนละ 2,000บาท พร้อมเปิดหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลให้ อสม.เรียน อีกทั้งนำระบบออนไลน์ในการรักษาผู้ป่วยที่บ้าน ผุดนโยบายปี 2566 ให้ประชาชนฉีดวัคซีน ป้องกันโควิดครบ 4 เข็ม


เมื่อเวลา 08.30 o. วันที่ 2 ธันวาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาเปิด โรงพยาบาลสูงเม่นแห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่ที่ ต.พระหลวง อ.สูงเม่น แพร่ และหลังจากนั้นเดินทางไป เปิด โรงพยาบาลชุมชนการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ที่ อบจ.แพร่ มี นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.แพร่ แบบปาตี้ลิส พรรคประชาธิปัตย์ นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 พรรคภูมิใจไทย นายธาตรี บุญมาก รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ นายเสรี ทรงศักดิ์ รองนายก อบจ.แพร่ ว่าที่ร้อยตรีศุภชัย ทานะขันธ์ ปลัด อบจ.แพร่ นายแพทย์ ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ นายแพทย์ แสงชัย พงศ์พิชญ์พิทักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุูงเม่น นายแพทย์วิชินโชติปฎิเวชกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อสม. ร่วมให้การต้อนรับ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า โรงพยาบาลสูงเม่นแห่งนี้ เห็นอาคารสวยเด่นเป็นสง่ามีมาตรฐาน เป็นสมบัติของของพี่น้องชาวสูงเม่นและพี่น้องชาวจังหวัดแพร่ทุกคน ขอชื่นชมคณะผู้บริหารในเขตสุขภาพที่ 1 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสูงเม่นและบุคลากรด้านสาธารณสุขจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะ ที่โรงพยาบาลสูงเม่นแห่งนี้ที่ได้มุ่งมั่นพัฒนางานด้านสาธารณสุข ด้วยขีดความสามารถด้านการรักษาพยาบาลขยายพื้นที่บริการเพื่อที่จะให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการดูแลสุขภาพที่รวดเร็วและได้มาตรฐาน ที่สำคัญยิ่งความพร้อมของท่านให้ผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ที่มีจิตศรัทธาบริจาคทุนทรัพย์ที่ดินและอุปกรณ์การแพทย์ ด้วยความความต้องการที่เราต้องการให้ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นไว้วางใจได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงพร้อมที่จะสนับสนุนทุกวิถีทางที่จะทำให้มีการพัฒนาให้ได้มาตรฐานเป็นที่พอใจของผู้ที่เข้ามารับบริการมากขึ้น


วันนี้เรามีพี่น้อง อสม. อำเภอสูงเม่น มาร่วมงานอย่างมากมาย ถือเป็นบุคลากรด้านสาธารณสุขที่สำคัญ เป็นเฟืองจักรสำคัญในระบบสาธารณสุขของ เราไม่สามารถจะมีแพทย์อย่างเดียวได้ พยาบาล ต้องมี เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์แม้กระทั่งนักวิชาการทางด้านสาธารณสุข คนซักผ้า คนทำอาหารก็มีความสำคัญที่ทำให้ระบบของเราขับเคลื่อนได้

เราได้มีหมอคนที่หนึ่งคือ อสม. มาเป็นพลังในระบบสาธารณสุขของเราตามนโยบายสามหมอเพื่อให้พี่น้องประชาชนที่มีความเจ็บไข้ได้ป่วยได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและอย่างเหมาะสม ถ้าเรามีหมอเพียงคนเดียวที่โรงพยาบาลทุกคนป่วยก็จะแห่มาโรงพยาบาลก็จะล้นมีความแออัด ดังนั้นจึงมีนโยบายมีหมอสามคนในการดูแลพี่น้องประชาชน


เรายังมีระบบออนไลน์ คือหมอสามารถพูดคุยกับคนไข้ได้โดยพูดผ่าน อสม. แจ้ง อสม.ให้ดูแลคนไข้อย่างไร ตรงนี้เรามีการพัฒนาระบบนี้อยู่ เพื่อให้ภาพชัด เสียงชัด สัญญาณชัด พี่น้องประชาชนที่ป่วยก็อยู่ที่บ้านได้ โดยหมอคนแรกคือ อสม.จะดูแลสุขภาพของเขา ถ้าไม่ไหวก็มาหาหมอคนที่สอง ที่ รพ.สต. ของกระทรวงสาธารณสุข และ ของ อบจ. ถ้าไม่ไหว ก็มาหาหมอที่สามคือ หมอครอบครัวที่อยู่ตามโรงพยาบาลทั่วไป เป็นโยบายในการให้บริการที่คนป่วยก็ไมจำเป็นต้องเดินทาง ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ญาติต้องมา แมวหมาก็มาด้วยทำให้โรงพยาบาลต้องหาที่หาทางที่เหมาะสมรองรับ ขณะที่โรงพยาบาลไม่มีห้องสำหรับญาติต้องอยู่ตามช่องว่างต่างๆ ตามลานจอดรถตามที่ว่างตัวตึกเป็นภาพที่ไม่สวยงาม ทำให้มาตรฐานลดลง เราจึงต้องการพัฒนาปรับปรุงระบบให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามระบบสาธารณสุขของเราก็เป็นระบบที่ได้มาตรฐาน และได้รับความชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกและจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก


นอกจากนี้เรื่องไหนที่เคยเป็นข้อยกเว้นค่ารักษาพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ได้ขอให้สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติรวมค่าใช้จ่ายต่างๆเข้าไปในระบบประกันสุขภาพแห่ชาติด้วย ดังนั้นตั้งแต่ต้นปีคนไทยทุกคนได้ฟอกไตไม่เสียเงิน ก่อนหน้านั้นไม่เสียเงินเฉพาะทางหน้าอกทางช่องท้อง ทางแขนยังเสียเงินอยู่ครั้งละ 1,500 บาทสัปดาห์ละ สามครั้ง 4,500 ไม่รวมค่ารถค่าอาหารที่เพิ่มขึ้นไปอีก

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เราพยายามที่จะหลบเลี่ยงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุดูไปดูมาจากคนที่อายุขัย 70 ปี ตอนนี้ 80 แล้ว อีกสิบกว่าปีอาจจึง 85-90 ปี คนแก่อยู่ได้นะยาดียาถึง ติดเตียง คนดูแลดีเขาอยู่ไปเรื่อยๆแต่คุณภาพชีวิตไม่มี ทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้มีน้อยที่สุดและให้ระบบสาธารณสุขดูแลได้อย่างเต็มที่ ส่วนคนที่เข้าสู่ผู้สูงอายุแต่มีพื้นฐานสุขภาพที่ดี ให้เขาได้ดูแลตัวเองไม่เป็นภาระของลูกหลาน ไม่เอารายได้ของลูกหลานมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งเหล่านี้ เป็นแผนที่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องวางอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ภาระต่างๆไม่หนักจนเกินไป หากมีเงินเท่าไหร่ก็เอามาซ่อมประชาชนอย่างนี้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ พวกเราต้องหาความร่วมมือเรื่องนี้อย่างเต็มที่



ในส่วนของวัคซีน ปัองกันโควิด-19 พี่น้องน้องคนไทยต้องฉีดสี่เข็ม เมืองไทยเปิดกว้างไม่จำกัดแล้ว คนมาท่องเที่ยวเต็มไปหมด นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยเยอะมาก เราต้องสวมใส่เสื้อเกราะให้เต็มที่ วัคซีนฉีดสี่เข็ม ป่วยแล้วไม่เจ็บหนัก ไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ และไม่ตาย เราติดเชื้อติดได้ แต่เชื้อทำอันตรายเราไม่ได้ ปลัดระทรวงสาธารณสุข ประชุมวิชาการแพทย์ ประชุมสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้สรุปออกมาแล้วว่า นโยบายของปีหน้าคือให้คนไทยฉีดวัคซีน 4 เข็ม เพื่อความปลอดภัยแล้ววัคซีนมีพอ ไปฉีดที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ วัคซีนเรามีให้อย่างพอเพียง


นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอนโยบาย เพื่อที่จะตอบแทนคุณงามความดีของพี่น้อง อสม. ทั่วประเทศไทย ด้วยการผลักดันค่าตอบแทน 2,000 บาทต่อเดือน โดยจะนำเสนอต่อรัฐบาล และเป็นนโยบายของรัฐบาล จะเสนอแน่นอน พี่น้อง อสม.มีส่วนสำคัญที่จะทำให้คนไทยทั้งประเทศมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่เป็นภาระกับญาติๆ ถ้าเรามีสุขภาพแข็งแรงเราก็หาหมอน้อยลง กินยาน้อยลง พี่น้อง อสม.ก็จะต้องเป็นหมอคนที่หนึ่งของคนไทยทุกคน และต้องมีความเชี่ยวชาญมีความสามารถในการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชนได้ จึงได้เปิดหลักสูตรฝึกอบรมหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดหลักสูตรนี้แล้ว ที่ วิทยาลัยพยาบาลพระบรมราชนก เพื่อให้ อสม.ได้รับการฝึกอบรม ทำงานร่วมกับคุณหมอคนที่สองที่ รพ.สต. คุณหมอคนที่สาม คือคุณหมอครอบครัวที่โรงพยาบาลทั่วไป ระบบนี้ก็จะทำให้โรงพยาบาลลดความแออัดลง ส่วน การถ่ายโอน รพ.สต.ไป อบจ. นั้นทางกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีปัญหา หาก อบจ.ไหนพร้อม ก็สามารถถ่ายโอนให้ได้เลย






