“สส.นพ.ทศพร เสรีรักษ์” เร่งประสานร่วมกับทุกภาคส่วนฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้ชาวแพร่กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
“นพ.ทศพร เสรีรักษ์” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ลงพื้นที่ร่วมกับ หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ องค์กรภาคประชาชน นำรถดับเพลิง อุปกรณ์ชำระล้างเศษสวะออกจากสถานที่ราชการ อาคารบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้ชาวแพร่กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมือวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับทุกภาคส่วนในการติดตามและเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อน”วิภา”
ช่วงเช้าตรู่วันนี้ สส.นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ ตำบลสบสาย อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ เพื่อร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมล้างทำความสะอาดวัดสบสาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบสาย และโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลสบสาย ต่อจากนั้นจากนั้นได้เดินทางไปที่ โรงเรียนเมธังกราวาส ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้ร่วมกับคณะครู ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ร่วมกันทำความสะอาด เสร็จแล้ว
สส.นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เดินทางไปที่ วัดเชตวัน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เพื่อร่วมกับเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ได้ช่วยกันล้างเก็บกวาดวัดด้วยตนเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาตินาตอง แม่สายแม่ก๋อน ที่นำอุปกรณ์และกำลังคนเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ด้วย
ช่วงบ่าย สส.นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ได้เดินทางต่อไปยัง ชุมชนวัดสวรรค์นิเวศน์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากอุทกภัย โดยได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 35 ที่นำกำลังมาช่วยชะล้างถนนและบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่
สส.นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ได้เปิดเผยถึงภารกิจที่ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วมในวันนี้ว่า ขณะที่ในแต่ละพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้มีประสานรถน้ำจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เทศบาลเมืองแพร่ องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาลตำบลในพื้นที่จังหวัดแพร่ ในการนำรถ อุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าชะล้างอาคารบ้านเรือน ที่ได้รับผลกระทบเพราะหลังจากระดับน้ำลดลงไปแล้วยัง มีโคลน เศษหินดินทราย เศษสวะต่างๆที่ได้ไหลมากับน้ำและยังตกคั่งค้างอยู่ในอาคารบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก
แม้ว่าสถานการณ์อุทกภัย ที่ระดับน้ำจะลดลงแล้วในหลายพื้นที่ แต่บางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขัง และทราบว่าประชาชนยังไม่สามารถปรุงอาหารได้ เพราะอาคารบ้านเรือนและการเดินทางไปมายังไม่สะดวก จำเป็นที่ผมจะต้องมีการนำอาหารปรุงสุกเข้าไปแจกจ่าย วันแรกๆผมเปิดโรงครัว ทำอาหารใส่กล่องแล้วลงเรือท้องแบนไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน และเพื่อเป็นการให้กำลังใจว่าผมเป็นคนหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้น เห็นความยากลำบากของพี่น้องประชาชนขณะที่เกิดเหตุ ผมก็เร่งเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนนั้นทันที พร้อมกับอยู่เคียงข้างให้กำลังใจ
