การศึกษา

แผนพัฒนาจังหวัด แผนซ้ำแผนซ้อนที่มากที่สุดในประเทศ?

ที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมในระดับจังหวัด คือได้เข้าไปฟังว่าผู้หลักผู้ใหญ่ขณะนั้นเขาพูดกันอย่างไรบ้าง  สิ่งที่จะนำมากล่าวในเรื่องนี้ก็คือว่า คำที่พูดนี้มันน่าคิดอยู่เหมือนกัน แต่เป็นผู้ว่าราชการท่านหนึ่ง จำชื่อไม่ได้ ทำให้จดจำอยู่ในความคิดของตัวผู้เขียนอยู่เองตลอดมา  ท่านพูดว่า จังหวัดแพร่ มีแผนเกี่ยวกับพัฒนาจังหวัดเยอะมาก  หรือเรียกว่าเยอะที่สุดในประเทศไทย  ต่างกลุ่มต่างหน่วยงาน ต่างก็ตั้งแผนพัฒนาจังหวัดแพร่ขึ้นมาทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและสิ้นเปลืองงบประมาณ  และต่างคนต่างทำต่างคนต่างคิด

สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือว่าที่ผ่านมา  ในจังหวัดแพร่  ผู้ปฎิบัติ กับผู้คิดเป็นคนๆเดียวกัน  คือเป็นทั้งโค้ช และนักฟุตบอลที่ลงเล่นในสนามเป็นคนเดียวกัน  เมื่อเป็นนักฟุตบอลที่เล่นเก่ง เอาตัวรอดในสนามเก่ง  ก็คิดว่าเป็นนักคิดนักวิชาการนักวางแผนไปด้วย  สิ่งที่เห็นคือว่าเราจะเห็นว่าในบ้านเรามักจะเอานักปฏิบัติมาเป็นผู้นำ หรือมาเป็นศูนย์กลางของอำนาจในการบริหารพัฒนาจังหวัดแพร่  แต่เมื่อมองจากจังหวัดอื่นเขาเอาผู้บริหารที่ประสานผลประโยชน์ หรือเป็นนักวางแผนในการบริหารคน มานั่งกุมบังเหียน  เช่นนี้นี่เองมันจึงทำให้การพัฒนาไม่ไปไหนสักที

การจัดตั้ง ศูนย์บัญชาการหรือการพัฒนาจังหวัดแพร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดินน้ำลมไฟ ทั้งหลายทั้งปวงขึ้นมาใหม่นั้น  มันก็อาจจะไปซ้ำซ้อนกับแผนพัฒนาจังหวัดที่มีอยู่เดิม หรือการทำหน้าที่ ของกรอ.จังหวัด หรือคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน ได้  หากจะมีกลุ่มองค์กรพัฒนาจังหวัดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็น่าจะเอาเข้ามารวมกลุ่มกันตรงนี้เพื่อตั้งเป็นคณะอนุกรรมการ

ยกตัวอย่างที่จะมีการตั้งคณะกรรมการเกี่ยวกับรถไฟสายเด่นชัย-เชียงของขึ้นมาร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย  ผู้เขียนเห็นด้วยแต่กังวลว่ามันจะเกิดการซ้ำซ้อนกับ แผนพัฒนาจังหวัดแพร่ และ กรอ.จังหวัด  หากตั้งเป็นอนุกรรมการของ กรอ.จังหวัดขึ้นมาก็จะดีกว่า   เหมือนการตั้งคล้ายๆคณะกรรมการยุทธศาสตร์จังหวัดแพร่ ขึ้นมาใหม่มันก็ไปทับซ้อนกับ การทำงานของ  กรอ.จังหวัดแพร่  หรือแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดแพร่ ที่ทำไปแล้ว  เชื่อว่าอาจจะทำให้การทำงานเหมือนคนมีสามขา  คือมีขามากแต่จะเดินไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไรได้เพราะว่า ขาสองข้างมันมีอยู่ก็คิดว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรก็ยากลำบากอยู่แล้ว  ไม่ใช่มาคิดว่า มีขาสองขาแล้ว  หากมีขาเพิ่มอีกขาหนึ่งเป็นสามขามันน่าจะเดินจะวิ่งไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น  คือเอาจำนวนมากเข้าไว้ โดยไม่ได้มองว่ามันจะทำให้การพัฒนาจังหวัดมันจะไปข้างหน้าได้หรือไม่

การตั้งคณะกรรมการพัฒนาจังหวัดที่ซ้ำซ้อน มันก็เหมือนตั้งขึ้นมาเพื่อแข่งขันกัน  ตั้งขึ้นมาเพื่อมากุมในเรื่องการดำเนินการโครงการพัฒนาต่างๆอีกชุด  ไม่ต่างจากรัฐซ้อนรัฐ  กระบวนการที่ให้มีคนรุ่นใหม่ๆขึ้นมาในการพัฒนาจังหวัดมันก็จะขาดกระบวนการสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเพื่อมารับไม้ต่อคนรุ่นเก่าในการที่จะดูแลบ้านเมืองต่อไปในอนาคตอันใกล้และไม่ไกลนี้

คำว่า  จังหวัดแพร่มีแผนพัฒนาจังหวัดมากที่สุดในประเทศไทย  จึงน่าจะเป็นคำพูดที่นำเอาไปตีความหมายได้ว่า การปฎิบัติกับความคิดไม่สัมพันธ์กัน  เพราะแผนที่จะสำเร็จได้สิ่งสำคัญที่สุดคือการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของคน ไม่ใช่อยู่ที่การรวมเอาซุปเปอร์ยอดมนุษย์มารวมกันคิดเพื่อจะกุมเรื่องของเศรษฐกิจการเมืองไว้ในคนกลุ่มเดียวกันโดยไม่เปิดโอกาสหรือสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถขึ้นมาพัฒนาบริหารจังหวัดได้ แต่กลับมีการวางกฎเกณฑ์เพื่อให้พวกพ้องบริวารขึ้นสืบทอดอำนาจนั้นต่อเนื่องและต่อไป  มีการพัฒนาหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในจังหวัดยืนยันได้ว่ามันเกิดขึ้นจากภาคประชาชนเป็นส่วนใหญ่

ที่ผ่านมีการตั้งคณะกรรมการต่างๆที่ซ้ำซ้อนนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะได้มานั่งคิดนั่งอ่านเพื่อกุมเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมให้แก่พวกพ้องบริวารของตนเองเท่านั้น ไม่ได้มีเนื้อที่แท้จริงที่จะทำเพื่อประชาชน  แต่เป้าประสงค์ที่แท้จริงคือการรวมกลุ่มเพื่อเอาผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อพวกพ้องและบริวารของตนเองอย่างเป็นระบบเท่านั้นเองใช่หรือไม่?

บทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียนเอง  และเป็นความเห็นที่ไม่แฝงผลประโยชน์ใดๆ  แต่เป็นการเขียนเพื่อปลุกเร้าให้ภาคประชาชนสร้างการรวมกลุ่มกันของประชาชนเพื่อพัฒนาจังหวัดของเราและเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนได้ออกมาดูแลบ้านเมืองของตนเอง  อย่าเชื่อคำหวานๆอย่างที่ผ่านมาที่พบว่ามีแต่ความว่างเปล่า

ผู้เขียนเคารพในความเห็นที่แตกต่าง จากบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งที่อาจจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ถูกต้องทั้งหมด  ผู้อ่านโปรดนำข้อมูลอื่นๆประกอบร่วมเพื่อนำมาพิจารณาร่วมเเสริมความถูกต้องของบทความนี้ด้วย ส่วนบทความนี้ไม่ได้มุ่งหมายไปยังผู้หนึ่งผู้ใดหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพียงแต่เป็นเพียงความคิดหนึ่งของผู้เขียนเองเท่านั้น จึงขอโปรดใช้พิจารณาญานในการอ่านด้วย