การเมืองสังคม

“ร.อ.ธรรมนัส” เปิดป้ายศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 มั่นใจหลังเลือกตั้งจะเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลพร้อมหนุน พลเอกประวิตร นั่งนายกรัฐมนตรี(ไฮไลท์)

“ธรรมนัส”  เปิดป้ายศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขตเลือกตั้งที่ 1 และปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุน มั่นใจหลังเลือกตั้งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพร้อม พลเอกประวิตร นั่งนายกรัฐมนตรีและรวมคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียว ก้าวข้ามความขัดแย้งทุกกรณี

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 28 มีนาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือพรรคพลังประชารัฐ และรับผิดชอบผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน   ได้เดินทางมาเปิดป้ายสำนักงานศูนย์ปะสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 และพบปะแกนนำผู้สนับสนุนในเขตเลือกตั้งที่ 1   มี นางสาวอาทิตยา อินนะไชย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ เขต 1 นายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.แพร่ เขต 2 และ  นางสาวปอรวัลย์  มุดเจริญ  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ เขต 3 ร่วมต้อนรับ ณ บริเวณอาคารหน้าวิทยาลัยพยาบาลแพร่ ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่      พร้อมกับได้เดินทางไปพบแกนนำในเขตเลือกตั้งที่ 2 ณ ศูนย์สตรี ต.ทุ่งศรี อ.ร้องกวาง จ.แพร่  และ เขตเลือกตั้งที่ 3 ณ โรงรียนพระปริวัติ วัดเชตุวัน ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ อีกด้วย
ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ  กล่าวถึงความรับผิดชอบในการเลือกตั้ง ส.ส ว่า  ทางด้านยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐผมดูแลทั้งประเทศ แต่ว่าพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนรับผิดชอบผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด
ในส่วนของกระแสแลนด์สไลด์ขอพรรคการเมือง  ร้อยเอกธรรมนัส  ตอบว่า ในส่วนของกระแสของพรรคนี่เราปฎิเสธไม่ได้เพราะว่าการเมืองมันจำเจอยู่ 8 ปี 9  ปี  การเมืองในระบบที่เราเรียกว่ากลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่ผู้รักรักประชาธิปไตยที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงก็ทำให้เกิดกระแสเกิดขึ้นในพรรคต่างๆ  ถามว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ กังวลเรื่องนี้ไหม  เราไม่ได้กังวล เพราะว่าเรามั่นใจในตัวบุคคลของผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะจังหวัดในภาคเหนือที่ผมกำกับดูแล  ผมมั่นใจว่าผู้สมัครของเราหลายๆเขตจะสามารถปักหมุดในจังหวัดนั้นๆได้

หลังเลือกตั้งจะมีจำนวน ส.ส.มากจนเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่  ร้อยเอกธรรมนัส ตอบว่า ทุกพรรคของตัวเองก็คาดหวังว่าพรรคของตัวเองจะเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล  แต่เราต้องดูโลกความเป็นจริง  ว่าอย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมา เรามีผู้แทนราษฎรอยู่จนครบวาระ อยู่จนยุบสภาอยู่ประมาณ 60 กว่าท่าน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพของแต่ละจังหวัด เพราะฉะนั้นเรามีทุนเดิมอยู่แล้วเราไม่ต้องไปนับหนึ่งใหม่ และสิ่งสำคัญคือว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่แต่ละจังหวัดของพรรคพลังประชารัฐล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของสังคมในปัจจุบัน  ดังนั้นผมมีความมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะสามารถได้รับชัยชนะและสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่มีการเลือกตั้งเสร็จแล้ว
หัวหน้าพรรคพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่  ร้อยเอกธรรมนัส  ตอบว่า ทุกพรรคก็หวังให้หัวหน้าพรรคของตัวเองเป็นนายก  เช่นเดียวกันพรรคพลังประชารัฐ  เราสนับสนุนท่านหัวหน้าพรรค  พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ  เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
การร่วมรัฐบาลกับฝ่ายค้านหลังการเลือกตั้ง ร้อยเอกธรรมนัส ตอบว่า คือการร่วมมือกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ณ เวลานี้ผมว่ามันไวเกินไป ต้องรอผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร สิ่งทีมันเกิดขึ้นอาจจะไม่เหมือนกระแสที่มีการวิพากวิจารในขณะนี้หลายพรรคอาจจะผิดหวังที่จะได้ สส.ตามเป้าที่วางไว้ ตอนนี้เรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลมันไวเกินไป
สโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้งมีความหมายอย่างไร ร้อยเอกธรรมนัส  ตอบว่า คือสังคมประเทศไทยในช่วงระยะเวลาเราจะสังเกตเห็นว่าทุก 10 ปี จะเกิดแตกแยกทางสังคมพี่น้องประชาชนเกิดความคิดแตกต่างกัน พอความคิดแตกต่างกันก็เกิดความแตกแยก  ทำให้พฤติกรรมของคนไทยเกิดการต่อสู้ซึ่งกันและกัน ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ ต้อการรวมคนไทยทั้งแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกัน  รวมเป็นพลังประชารัฐคือพลังของพี่น้องประชาชนภายใต้การกำกับดูแลของของรัฐบาล จึงมาเป็นพรรคพลังประชารัฐ ที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งทุกกรณี