Skip to content
Post Views: 373
รมว.พม.เดินทางมาที่ จ.แพร่ เผยรัฐบาลจัดให้มีพระบริบาลทุกวัดเพื่อดูแลพระที่ป่วยและอายุมาก ขณะที่สับนโยบาย 3,000 ให้ผู้สูงอายุถ้วนหน้าเป็นเพียงฝันแห้ง เพราะจะต้องตัดงบอื่นๆเผย อีก 10 ปีจะมีผู้สูงอายุ 20 ล้านคนทั่วประเทศ

พร้อมกับเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 มีนาคม 2566 นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาตรวจราชการ ที่ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลนาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ และศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลป่าแมต อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ มี นาวสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.ภ.จว.แพร่ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายกสมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ นางอัมราพร มุ้งทอง นายกสมาคมสตรีจังหวัดแพร่ นางอนงค์ เจริญวัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ นางสาวสุธีรา พณะพล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาจักร นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ นายกเทศมนตรีตำบลป่าแมต และเครือข่ายผู้สูงอายุจังหวัดแพร่ และ นางสาวชนกนันท์ ศุภศิริ

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เพราะว่ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดูแลทุกคนตั้งแต่เกิดจนตายตั้งแต่เกิดหมายความว่าเด็กที่เกิดบนประเทศไทย สามารถขอใช้สิทธิ์เด็กแรกเกิด ได้ค่านมทุกเดือนจนถึงอายุ 6 ปี จะได้เรียนฟรีจนถึงอายุ 15 ปี ภาพที่เห็นวันนี้มีการมอบทุนของผู้สูงอายุ มีการดูแลผู้สูงอายุ และสุดท้ายทุกคนก็หนีไม่พ้นรับค่าทำศพ รัฐบาลชุดนี้เพิ่มให้รายละ 2000 บาท เป็นรายละ 3,000 บาท สิ่งที่ พม.ถูกตำหนิจ่ายช้า ก็ต้องยอมรับว่าจริงเพราะไม่สามารถคาดการได้ว่าจะต้องตายกี่คนล่วงหน้า ไม่ตั้งเกินให้คนตายเพราะว่าเป็นการแช่งให้คนตาย เราตั้งงบประมาณน้อยกว่าเราคิดว่าจะต้องเสียชีวิต

อายุเฉลี่ยคนไทย 69 ปี วันนี้เป็นอายุเฉลี่ย 73 ปี เมื่อก่อนนี้จังหวัดแพร่มีผู้สูงอายุมากที่สุด ตอนนี้จังหวัดลำปางแซงไปแล้ว แต่ผู้สูงอายุ111,007 คน ในจังหวัดแพร่ ก็ถือว่าโชคดีมาก ที่นี่มีวิทยาลัยพยาบาลแพร่ ซึ่งเราต้องขอขอบคุณ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ที่ไปของบประมาณจัดตั้งจนได้ตั้งวิทยาลัยพยาบาลแพร่

ขณะที่ ปี 2566 ครบอายุ 8 รอบของสมเด็จพระสังฆราช คือ 96 ปีรัฐบาลได้จัดให้มีพระบริบาลคือพระสงฆ์ทุกรูปในประเทศไทยจะต้องมีพระที่บริบาลที่ต้องดูแลพระที่เจ็บป่วย พระอายุมาก ทุกวัดก็ให้มีวัดละ 1-2 รูปเป็นอย่างน้อย เดี๋ยวนี้พระก็ใช่ว่าหาง่าย หายาก เพราะฉะนั้นในช่วงระหว่างปีมีพระสึกออกไปไม่มีพระบริบาลก็ต้องมาฝึกพระเพิ่มเติม เชียงรายรุ่นแรกพระที่จบพระที่บริบาลพระที่สูงอายุ คณะที่ไปฝึกมาจากวิทยาลัยการพยาบาลแพร่ สิ่งที่ต่อยอดจากจังหวัดเชียงรายคือจังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่วิทยาลัยพยาบาลอยู่แล้วสามารถปรับให้เป็นโมเดลของการดูแลผู้สูงอายุของทั้งประเทศได้ วันนี้เรามีอาสาสมัครพัฒนาสังคม( อพม.) ซึ่งเป็น อพม.ทั่วไปและ อพม.เชี่ยวชาญพิเศษ อาทิ เชี่ยวชาญด้านคนพิการเชี่ยวชาญเรื่องเด็ก เชี่ยวชาญเรื่องผู้สูงอายุ ดังนั้นทุกปี พัฒนาสังคมจังหวัด(พมจ.)ต้องอบรม อพม.เชี่ยวชาญเพิ่มทุกๆปี จากนี้ไปอีก 10 ปี ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นปีละ 20 เปอร์เซ็นต์

เราสามารถอบรม อพม.ขั้นต้น 17 ชั่วโมง ดูแลปู่ย่าตายายได้ในบ้านของตนเอง ขยับมามีอาชีพอยู่ดูแลผู้สูงอายุ ก็มีใบอนุญาต 70 ชั่วโมง วันนี้เราพัฒนาไปอีกขั้น อบรม 424 ชั่วโมงและวิทยาลัยพยาบาลนั้นจะรับรองคุณภาพ มาตรฐานและเป็นผู้สอนด้วย แต่เราไม่ได้มีวิทยาลัยพยาบาลทุกจังหวัด มีบางจังหวัดเท่านั้น

วันนี้โลกมันเปิดแล้ว ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังจากโควิด วันนี้เด็กที่จบ ม.6ไม่รู้จะทำอะไร ไปเรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลผู้สูงอายุสูงขาดแคลนอาชีพนี้ทุกโรงพยาบาลมีตึกสำหรับดูแลผู้สูงอายุพิเศษ พยาบาลนั้นไม่สามารดูแลผู้สูงอายุได้ครบทุกคนจำเป็นต้องมีผู้ช่วยพยาบาล ขณะนี้กระทรวงพัฒนาสังคมได้เซ็นข้อตกลงกับโรงพยาบาลเอกชน เขาจึงต้องการคนจบ ม.6 ถึงแม้ไม่จบสายวิทย์ก็ตามแต่สามารถฝึกเป็นผู้ช่วยพยาบาล เป็นบริบาลได้ ถ้าทำงานในประเทศอบรม 70 ชั่วโมง เงินเดือน 12,000-13,000 บาท ถ้าจะไปทำงานต่างประเทศ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพของสภาพยาบาล อบรม 420 ชั่วโมง เงินเดือน 18,000-25,000 บาท

มาวันนี้ต้องให้จังหวัดแพร่เป็นโมเดลต้นแบบฝึกอบรมดูแลผู้สูงอายุ วันนี้อยากจะบอกเรื่องหนึ่งแต่ก็ไม่อยากจะขัดใจ แต่ว่าไม่อยากให้ฝัน ฝันแห้งที่บอกว่าจะให้บำนาญคนแก่เดือนละ 3,000 บาท ถามว่าใครบ้างที่จะไม่อยากให้ พม.อยากให้ แต่ต้องบอกความจริงท่านว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เงินที่เอามาเพิ่มให้แต่ถามว่าต้นทุนที่ให้ยอมจ่ายกันไหม วันนี้ผู้สูงอายุในประเทศไทยมี 12 ล้านคน อีก 10 ปี จะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน จาก 69 ล้านคน คือ 1 ใน 3 ในวันนี้รัฐบาลจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 84,000 ล้านบาท เฉพาะคนที่มีรายได้น้อยคนที่รวยไม่ได้

แต่มีคนเสนอว่า 3,000บาทถ้วนหน้าหมดเลย จนหรือรวยเอาไปหมดเลย 3,000 บาททุกคน แต่ให้ทุกคนจะต้องใช้เงิน 720,000 ล้านบาท ถามว่าจะเอาเงินมากไหน บอกครึ่งเดียวว่าท่านจะได้ เขาบอกว่าใน 7.2 แสนล้าน วันนี้รัฐบาลจ่ายอยู่แล้ว 84,000 ล้านบาท คิดง่ายๆต้องเพิ่มเงินอีก 600,000 ล้านบาท ก็ให้หยุดซื้ออาวุธทั้งหมด ตัดงบทหาร 5 หมื่นล้านทุกปี เก็บเพิ่มภาษีบาป ภาษีสุขภาพ จังหวัดแพร่โดนละ ภาษียาสูบ คนแพร่ที่ปลูกยาสูบกระทบไหม สองเงินนั้นเอามาจากลอตเตอรี่ รายรับจากการขาย 100 บาท ต้องจ่ายคืนเงินรางวัล 60 บาท รัฐได้ 40 บาท เงินจากลอตเตอรี่ทุกปีจะเหลือให้รัฐบาล 25,000 ล้านบาท แล้วเขาตัดเงินบำนาญข้าราชการยอมไหม เงินก็จะขาดอีก 300,000 ล้านบาท ก็จะขึ้นภาษี วันนี้จะต้องรู้ความจริงว่า ท่านเสียค่าไฟ 100 บาท บวกภาษี 7 บาท สบู่ 10 บาท ต้องเสียภาษี 7 สตางค์ ไปกินก๋วยเตี๋ยว 50 บาท ท่านต้องเสียภาษี 3.50 บาท ถามว่าเราเอาเงินไปให้ผู้สูงอายุทั้งประเทศเป็นสิ่งที่ดี เป็นคนกตัญญูให้ผู้สูงอายุ ยอมให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกเท่าตัวไหม

วันนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตนั้น อุ้มค่าไฟที่ขาดทุน 180,000 ล้านบาท คือยอมขาดทุนแทน ปตท.กองทุนน้ำมัน มีหนี้อีกแสนกว่าล้านอุ้มราคาไว้ให้ท่าน คนอยากเป็นรัฐบาลมาถามท่านว่าอยากได้ 3,000 บาทไหม อยากได้ เสียตรงนี้ยอมไหม ถ้าคนทั้งประเทศยอมเสียก็โอเค อยากได้ราคาน้ำมันถูกลงไหม ท่านต้องช่วยตัดสินใจ สิ่งที่พูดถึงทุกรัฐบาลต้องทำแต่รัฐบาลต้องกระจายงบประมาณให้ทั่วถึง เงินมันไม่พอ ให้คนที่จนที่สุดก่อนแล้วค่อยขยับขึ้นมา เหมือนกับบัตรลุงตู่ที่ออกมา คนได้บัตรประชารัฐ แต่คนมีรถยนต์ มีบ้าน มีที่ดิน เขาก็ไม่ให้ มีเงินฝากในธนาคารก็ไม่ได้ คนที่ได้ คือคนที่มีเงินกู้แต่ไม่มีเงินฝาก ตรงนี้บอกได้ว่าคนที่ยังไม่ได้บัตรลุงตู่นี้มีสิทธิอุทธรณ์ถึง 30 เมษายน 2566

