Skip to content
Post Views: 205

ในเรื่องนี้ คงมีความเห็นในเรื่องของการกระตุ้นในเรื่องของเศรษฐกิจของจังหวัดเพื่อให้เกิดเรียกว่า การสร้างต้นทุนทางการค้าทางด้านภาพลักษณ์หรืออารมณ์ที่ดีเพื่อให้เกิดความสนใจ ถือเป็นเรื่องดีมาก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่จะต้องเข้าใจว่า ที่นี่มีพ่อค้าแต่ไม่มีนักเศรษฐศาสตร์ หมายถึงว่า มีนักปฎิบัติแต่นักคิดที่เป็นพวกประเภทจินตนาการไม่ค่อยมี ดังนั้นมันจึงจะไม่มีเรื่องของจินตนาการในเรื่องต่างๆซึ่งปัจจุบันนี้เป็นเรื่องสำคัญของการท่องเที่ยวที่จะนำเงินจากนักท่องเที่ยวต่างแดนเข้ากระเป๋าให้กับคนในท้องถิ่น ที่ผ่านมาทุกอย่างที่นี่มันจึงออกมาแบบทื่อๆไม่สมูต หรือไม่เนียน หรือรู้ไม่จริงหรืออย่างไร ซึ่งปรากฎการเช่นนี้นักท่องเที่ยวจะรับรู้ได้จากความรู้สึกและประสบการ์ที่ผ่านมาของตนเองได้ และอรรถรสมันก็จะหมดไปแบบไม่มีคุณค่า จึงไม่อยากควักเงินออกจากกระเป๋าตัวเองแม้แต่สลึงเดียว
ปัญหาของจังหวัดแพร่ ณ เวลานี้หรือเวลาไหนคงเป็นปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ เนื่องจากว่า บนพื้นฐานที่ผ่านมา การทำธุรกิจของบ้านเราเป็นการทำแบบผูกขาด คือจากรุ่นสู่รุ่น แม้แต่ตำแหน่งแห่งหนต่างๆก็จะมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นเช่นกัน แต่ว่าถือว่าเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าความเก่งจากรุ่นปู่ สู่รุ่นลูก และไปสู่รุ่นหลาน นั้น คนสามรุ่นจะเก่งเหมือนกันหมดนั้นเป็นไปได้ยาก ดังนั้นรุ่นที่สามคือรุ่นหลานนี่จะมีผลส่งกระเทือนต่อระบบผูกขาดอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่า ในเรื่องราวต่างๆของคนรุ่นที่สามไม่พบว่ามีอะไรโดดเด่นนอกจากได้เรียนสูงๆ ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ในสังคมสมัยใหม่ได้อีกต่อไปแล้ว จึงทำให้เกิดมีการรวมกลุ่มเพื่อความอยู่รอดเพื่อเอาไปใช้ให้ต่อรองให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกับปัจเจกบุคคลที่มีบุคลากรน้อยกว่า แต่ก็นำมาใช้ได้กับภายในจังหวัดเท่านั้น แต่มันจะมีประโยชน์บ้างสำหรับผลประโยชน์ระยะสั้นของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลแต่ละกลุ่มเท่านั้นแต่ระยะยาวก็มีแต่พังกับพัง ส่งผลทำให้ภาพรวมความก้าวหน้าของสังคมไม่ไปไหนสักทีและจะถอยหลังเอาเสียด้วย ตามมาคือทำให้เกิดโรคกลัวความเจริญหมู่กลัวคนแปลกหน้าจากสังคมอื่นจะนำความเจริญเข้ามาหรือเข้ามาแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันก็เกิดขึ้นแล้ว
ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้มีอำนาจปกครองทุกคนมีความฝันว่าอยากจะเข้ามาแก้ไขปรับปรุงใหสังคมที่นี่ก้าวไปข้างหน้า แต่เชื่อได้เลยว่า ความตั้งใจจะถูกบั่นทอนลงไปเรื่อยๆพร้อมกับความฉงนงงงวยว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปมันไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะตนเองหรือ? แต่เหตุผลคือ คนรุ่นใหม่ๆที่มีบทบาทในสังคม กับโครงการใหญ่ๆที่เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่ พวกเขาเหล่านี้แทบไม่มีบทบาทอะไร หรือน้อยมาก ตั้งแต่เริ่มต้น เพียงแต่เฮโลเข้ามามีส่วนร่วมในความสำเร็จตอนที่โครงการมันเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว มาร่วมถ่ายรูปเผื่อคนที่อยู่ไกปืนเที่ยงจะเชื่อก็ได้ ผู้มาปกครองเมื่อย้ายมารับตำแหน่งใหม่ๆก็เลยคิดว่าบุคคลเล่านี้เป็นผู้สานต่อในโครงการที่ตัวเองได้ทำได้ผลักดันมาแล้ว อาทิโครงการรถไฟสายเด่นชัย-เชียงของ โครงการปรับปรุงท่าอากาศยานแพร่ โครงการเมืองเก่าแพร่ แต่ความจริงละโครงการกว่าที่จะผ่านและถือว่าได้มีความสำเร็จไปแล้วนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคลเหล่านี้หรือน้อยมาก หรือแม้จะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว และบางทีถึงกับมีลักษณะไม่เห็นด้วยด้วยกับโครงการที่กล่าวมานี้ด้วยซ้ำไป แล้วสุดท้ายก่อนที่ผู้ปกครองจะย้ายไปหรือย้ายไปแล้วสิ่งที่เขาจะพูดกันตามหลังไปคือ ผู้ปกครองไม่ทำอะไรเลย มาเพื่อรอเกษียณ แค่นี้คือสูตรสำเร็จที่ต้องรับทราบไว้ ณ ที่นี้
ที่ผ่านมามันจึงทำให้การพัฒนาที่นี่มันเดินกันไปคนละทางระหว่างคนสองกลุ่ม คือกลุ่มคนที่ดำเนินการที่อยู่ต่างจังหวัดที่ผลักดันร่วมกับกลุ่มคนในพื้นที่ กับคนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอำนาจ รอถ่ายรูปหลังการพัฒนาใกล้เสร็จหรือเสร็จแล้ว สิ่งที่กล่าวมานี้จะเป็นความจริงหรือไม่ ในความรู้สึกของท่านผู้เป็นผู้ปกครองเมื่อตื่นขึ้นมาจะรู้สึกได้ว่าทำไมทุกอย่างมันถึงไม่พัฒนาไปข้างหน้าสักที ตอบให้ก็เพราะท่านกำลังดำเนินการพัฒนากับคนที่ไม่มีคุณภาพไม่มีความรู้ความสามารถ แต่มีอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งในเรื่องเหล่านี้ และความเจริญที่มาจากการผลักดันจากคนจากต่างจังหวัด มันจะไม่สามารถต่อยอดไปได้ เพราะมันแทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย กับสิ่งที่กลุ่มบุคคลที่กำลังดำเนินการในขณะนี้
ปล.บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ
นายสุภัทร แสงดอก:เขียน